ความงาม คนที่เรารู้จักมักจะมีสองอย่างในเบื้องต้น เห็นแล้วสบายตา คบแล้วสบายใจ เพราะฉะนั้น ถ้าหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว แค่เห็นกันครั้งแรกก็สลดหดหู่ อย่างนี้คือ เป็นกรรม จะให้ถึงขั้นว่า คบหาพึ่งพาอาศัยกัน ก็คงลำบาก แต่หากเป็นชะตากรรมว่าเกิดมามีอันต้องมีชีวิตใกล้ชิดกัน เป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน หรือทำงานร่วมกัน ความไม่น่าดูในรูปลักษณะจะไม่มีผลเลย ถ้าเจ้าตัวเป็นคนดี จิตใจดี สติปัญญา รู้ถูกรู้ควร ถึงตรงนี้อัปลักษณ์อย่างไร ก็ไม่เป็นไร ความคิดดี นิสัยดีคบแล้วสบายใจก็พอ ความงามแท้จริงของคนเราอยู่ที่ตรงนี้ต่างหาก
ดังนั้น สาวสวยทั้งหลาย และสาวที่อยากสวยแล้วเพียรสวย ทุกท่าน พึงรู้ไว้เถอะว่า การมีชีวิตคือ การอยู่ร่วมกัน อยู่ด้วยกันแล้วสุขสบายใจ ไม่มีประโยชน์เลยที่คุณจะสวยจะงาม แต่คนที่อยู่ร่วมกับคุณแล้วไม่มีความสุขผู้หญิงหลายคนเพียรพยายามมากกับการต้องการสวย คือบำรุงปรุงแต่งทุ่มเทเสริมสวย เพื่อให้ตัวเราดูสวยดูดี ใครเห็นใครชม ผู้หญิงด้วยกันก็ชื่นชม หนุ่มๆ ชื่นชอบ และด้วยวัตถุประสงค์อีกอย่างหนึ่งที่ซ่อนนัยยะเอาไว้ แม้ว่าเราจะไม่ยอมรับกันก็ตาม คือผู้หญิงอยากสวย เพราะอยากให้มี ผู้ชายดีๆ มาจีบ
ความงาม แน่นอนความสวยล่อใจได้
ความงาม แน่นอนความสวยล่อใจได้ ตรงนี้ไม่เถียง แต่ผู้ชายก็มีหลายประเภท มีโง่ มีฉลาด มีนิสัยเลว เห็นแก่ตัว มีสารพัดจะมีเหมือนที่ผู้หญิงเราก็มีดีมีเลวอย่างนี้เช่นกัน ผู้ชายฉลาดบางคนจึงไม่ได้เลือกผู้หญิงแค่ความสวย หากมองเพิ่มถึงสติปัญญา ความสามารถ นิสัยใจคอเพราะฉะนั้น รูปสมบัติอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ แต่ต้องมีคุณสมบัติร่วมอีกหลายประการ เช่น ญาติตระกูลให้ภาคภูมิใจสาวเจ้ามีพ่อแม่หนุน ส่งให้ฝ่ายชายพลอยได้ดิบได้ดีด้วยหรือเปล่า นี่เป็นสเป็กเพิ่มเติมของผู้ชายทะเยอทะยาน ที่ร้อยทั้งร้อยก็ไม่ยอมรับหรอก
มีแต่พูดว่า ผมภูมิใจที่จะก้าวหน้าด้วยตัวผมเอง แล้วก็มีผู้ชายอีกพวก ที่ไม่ชอบให้ผู้หญิงมาข่มว่าดีกว่า ใช้วิธีเลือกฝ่ายหญิงที่ฐานะไม่เหนือกว่ามาอยู่ในโอวาท มาช่วยงานบ้าน มาช่วยทำมาหากินแต่ไม่ว่าจะเป็นสตรีที่มีความงามในฐานะระดับใด ก็หนีไม่พ้นความงามในสติปัญญาว่า ควรจะมีระดับที่ “ไม่โง่” จนน่ารำคาญเช่นกันสติปัญญาและนิสัย จึงเป็นเงื่อนไขแห่งความดูงาม คุณต้องฉลาดอย่างมีจิตวิทยาเป็นเลิศ แกล้งโง่ได้ถูกเวลา ฉลาดถูกเวลา ไม่เว่อร์จนน่าอาย ไม่ทำให้ผู้ชายขายหน้ากับใครเลย
อันดับเทรนด์ความงามที่กำลังมาแรง
เมื่อปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก เช่นเดียวกับเทรนด์ความงาม แม้ยอดขายเครื่อสำอางจะตกเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ภาพรวมธุรกิจความงามยังคงเติบโตได้ดี1 เทรนด์บางอย่างเกิดขึ้นเพราะวิกฤติโควิด หลายเทรนด์เกิดขึ้นระหว่างช่วงล็อคดาวน์ บางเทรนด์เกิดขึ้นมาจากวัฒนธรรมการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม และอีกหลายเทรนด์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์
1. สกินแคร์กลายเป็นสินค้ายอดนิยม
สกินแคร์กลายเป็นสินค้ายอดนิยม สกินแคร์บำรุงผิวหน้าครองสัดส่วนตลาดถึง 19 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกิดจากความต้องการที่จะมีผิวที่เปล่งปลั่งโดยไม่ต้องแต่งหน้า และความกังวลเรื่องความแก่และริ้วรอย หลายคนมองว่าการใช้สกินแคร์เป็นการผ่อนคลาย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สินค้าในหมวดนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นสินค้า อาทิ มอยเจอไรเซอร์ ครีมลางหน้า เซรั่มและผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวจัดเป็นสินค้าขายดี ผู้บริโภคมองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน วิตามินซี น้ำมันกัญชา (CBD) ซึ่งกลายเป็นคำค้นยอดฮิตในปัจจุบันเมื่อผู้บริโภคมอง จะเลือกซื้อสกินแคร์
2. สินค้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมียอดขายเพิ่มขึ้น
ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งที่รับประทานและใช้บนร่างกาย ซึ่งเกิดมาจากการที่สินค้าความงามและสินค้าที่ไม่เกี่ยวกับความงามมีส่วนประกอบของสารเคมีที่ไม่พึงประสงค์และส่วนผสมของฟิลเลอร์ส่วนผสมเหล่านี้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม เพราะสารที่ร่างกายไม่ได้ดูดซึมไปให้ประโยชน์ก็จะกลายเป็นสารตกค้างในระบบหมุนเวียนในร่างกายของเรา ผู้บริโภคจึงหันมาพิจารณาสินค้าที่ตัวเองเลือกใช้ แม้บางกลุ่มจะยังไม่สนใจ
แต่สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับคลีนบิวตี้ยอมที่จะจ่ายด้วยราคาที่สูงกว่าเพื่อได้สิ่งที่ดีต่อร่างกาย2 สินค้าแพลนต์เบส ที่มาพร้อมแพคเกจจิ้งรักษ์โลกคือสินค้าในหมวดนี้ ผู้บริโภคบางกลุ่มเลือกรับประทานเฉพาะสินค้าที่ปลอดภัยต่อร่างกายผู้ประกอบการหลายรายเริ่มหันมาใช้กลยุทธ์ทางการตลาด “greenwatching”3 ซึ่งสินค้าจะมีฉลาก “ทำจากธรรมชาติ” “คลีน” “กรีน” หรือ “เป็นมิตรต่อธรรมชาติ” แม้ว่าคุณสมบัติของสินค้าชิ้นนั้นจะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ก็ตาม ซึ่งเกิดเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์ เพราะมีแบรนด์ที่เอาเปรียบผู้โภค ที่มองหาสินค้าจากธรรมชาติจริงๆ
3. ความงามเสกได้ด้วยตัวเอง (DIY beauty)
เมื่อร้านเสริมสวยกลายเป็นธุรกิจที่ไม่จำเป็น ร้านเสริมสวยจำนวนมากต้องปิดร้านเป็นเวลาหลายเดือนเมื่อต้นปี 2563 ทำให้ผู้บริโภคต้องรู้จักที่จะดูแลตัวเองเมื่ออยู่บ้าน เทรนด์สินค้า DIY เช่น อุปกรณ์ตกแต่งเล็บ แว็กซ์ น้ำยาย้อมผม เซ็ทบำรุงผิวหน้า กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น4 สินค้ากำจัด ขนมียอดขายเพิ่มขึ้น 97 เปอร์เซ็นต์และสินค้าเกี่ยวกับเล็บมียอดขายเพิ่มขึ้น 175 เปอร์เซ็นต์วิดีโอบน Youtube และวิดีโอเกี่ยวกับการดูแลตนเองมีผู้ชมเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้ร้านเสริมสวยกลับมาเปิดให้บริการ ผู้บริโภคจำนวนมากยังเห็นว่า การออกจากบ้านไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป จึงทำให้เทรนด์ DIY จะยังอยู่อีกสักพัก ความงาม